Ads

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตะวันตก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตะวันตก แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2566

วีรบุรุษของแต่ละประเทศในอาเซียน ( ผู้กู้ชาติจากยุคล่าอาณานิคม )

 

วีรบุรุษของแต่ละประเทศในอาเซียน 

( ผู้กู้ชาติจากยุคล่าอาณานิคม )

เรามาดูกันว่า ประเทศไหนบ้างในอาเซียนนั้น มราตกเป็นอาณานิคม หรือเมืองขึ้นแล้วสามารถ

เรียกร้องเอกราช กู้อิสระภาพของชาติบ้านเมืองตจัวเองหลังจากยุคล่าอาณานิคมมีใครบ้าง 

ส่วนไทยนั้นไม่ได้ตกเป็นอาณานิคมของผู้ใด จึงไม่มีนะคับ


วีรบุรุษของแต่ละประเทศในอาเซียน ( ผู้กู้ชาติจากยุคล่าอาณานิคม )



1. พม่า : พลตรีอองซาน  ผู้ก่อตั้งกองทัพพม่า และได้รับการขนานให้เป็นบิดาแห่งรัฐพม่าสมัยใหม่ 

มีบทบาทเป็นอย่างมากในการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช แต่ถูกลอบสังหารก่อนพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษ



2. ลาว : เจ้าสุภานุวงศ์ สัญลักษณ์การต่อสู้เพื่อเอกราชของประเทศลาว ผู้นำคนแรกของลาว ในฐานะ

ประธานประเทศ (ประธานาธิบดี) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หลังจากได้มีการเปลี่ยนแปลง

การปกครองจากอาณาจักรมาเป็นสาธารณรัฐ โดยชื่ออย่างเป็นทางการของลาว คือ  สาธารณรัฐ

ประชาธิปไตยประชาชนลาว 



3. ฟิลิปปินส์ : ผู้นำในการลุกฮือขึ้นต่อสู้กับสเปน นักปฏิวัติในการเรียกร้องเอกราชของฟิลิปปินส์


- เอมีลีโอ ฟามี อากีนัลโด (Emilio Famy Aguinaldo) ประธานาธิบดีคนแรกของฟิลิปปินส์

- โฮเซ รีซัล (José Rizal)   บิดาแห่งชาติฟิลิปปินส์ 

- อันเดรส โบนีฟาซีโอ อี เด กัสโตร (Andrés Bonifacio y de Castro) นักปฏิวัติเรียกร้องเอกราช

           ของฟิลิปปินส์จากสเปน



4. อินโดนีเซีย : ซูการ์โน ประธานาธิบดีคนแรกของอินโดนีเซีย มีส่วนสำคัญในการประกาศเอกราช

ของอินโดนีเซียต่อเนเธอร์แลนด์ ผู้นำปัญญาชนเพื่อการกอบกู้เอกราช



5. มาเลเซีย :  ตนกู อับดุล ราห์มาน Tunku Abdul Rahman ผู้นำการเรียกร้องเอกราชบุคคลผู้มีบทบาท

สำคัญในเรื่องเอกราชให้แก่ประเทศมาเลเซีย  ได้รับยกย่องเป็นบิดาแห่งเอกราชหรือบิดาแห่งประเทศ

มาเลเซีย



6. กัมพูชา : พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระองค์เป็นกษัตริย์แห่งกัมพูชา, ประมุขแห่งรัฐกัมพูชา 

และนายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชาหลายสมัยเจรจากับฝรั่งเศสเพื่อเรียกร้องเอกราช 



7. บรูไน : สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์  องค์สุลต่านเดินทางไปยังสหราชอาณาจักร

เพื่อ ประชุมร่วมกับฝ่ายอังกฤษเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญของบรูไนและอังกฤษก็ยอมรับ ภายหลังได้มีการ 

ลงนามในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายใต้ระบอบการปกครองแบบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ทำให้รัฐบาลบรูไน

มีสิทธิในการบริหารราชการด้วยตนเอง อังกฤษจะเป็นเพียงผู้คุ้มครองเท่านั้น ต่อมาได้เกิดการเรียกร้อง

เอกราชของเพื่อการเรียกร้องเอกราชของมาเลเซียทำให้บรูไนที่อยู่ติดกันวุ่นวายไปด้วย เพื่อที่จะก่อตั้ง

เป็นสหพันธรัฐมาเลซีย มีลัทธิชาตินิยม สร้างความวุ่นวายไปทั่ว ในทีแรกสุลต่านมีความคิดเห็นจะให้บรูไน

ไปรวมกับมาเลเซีย แต่มีการคัดค้านและเสนอให้บรูไน นั้นไปรวมกับทาง ซาราวัค และ ซาบาห์ เพื่อตั้ง

เป็นประเทศใหม่ แต่แผนนี้ก็ถูกล้มไป ต่อมาได้มีกองกำลังปลดปล่อยชาติกาลิมันตันเหนือ ที่มาจาก

ทางอินโดนีเซียก่อนความวุ่นวายขึ้นกับบรูไน ทางสุลต่านจึงได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและขอความ

ช่วยเหลือจากทหารกรูข่าที่อังกฤษดูแลอยู่ มาเข้าควบคุมสถานการณ์จนเรียบร้อย ทำให้ทางสุลต่าน

ตัดสินใจไม่ข้าร่วมกับสหพันธรัฐมาเลเซีย จนต่อมาก็สามารถประกาศเอกราชเป็นประเทศได้สำเร็จ

และสมัครเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน จนถึงปัจจุบัน



8. สิงคโปร์ : แฮร์รี ลี กวนยู (Harry Lee Kuan Yew) ผู้นำในการต่อสู้เพื่อเอกราชของสิงคโปร์ ตัดสินใจ

เข้าร่วมสหพันธรัฐมาลายา (มาเลเซีย) เพื่อให้ได้เอกราชด้วยกัน ในแถบคาบสมุทรมลายู แต่ต่อมา

เนื่องจากความแตกต่างอะไรหลายๆอย่าง กับมาเลเซียอื่นๆ ทำให้ต้องแยกตัวออกมาและ ประกาศ

เอกราชมีอำนาจอธิปไตยของตนเอง ปกครองในรูปของสาธารณรัฐ 



9. เวียดนาม : โฮจิมินห์ เป็นบุคคลที่ชาวเวียดนามถือว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญในการประกาศเอกราช

อิสระภาพของชาวเวียดนาม หลุดออกจากปกครองของฝรั่งเศส จนคนเวียดนามเอาชื่อลุงโฮ ไปใช้แทน

ชื่อไซ่ง่อนเมืองหลวงเก่าของเวียดนามใต้  กลายเป็นนคร โฮจิมินห์ โดยจุดสำคัญที่เป็นจุดพลิกผันให้

ฝรั่งเศสพ่ายแพ้แก่เวียดนามที่ดังที่สุดคือที่ ยุทธการที่เดียนเบียนฟู ที่ต่อสู้สามารถรบนะฝรั่งเศสทั้งๆที่

ตัวเองอาวุธด้อยกว่าไม่มีเครื่องบินรบแบบฝรั่งเศสอีกด้วย






วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ประเทศในอาเซียน ได้รับเอกราช จากตะวันตก วันไหน ปีไหนบ้าง

 


ประเทศในอาเซียน ได้รับเอกราช จากตะวันตก วันไหน ปีไหนบ้าง

  เป็นที่รู้กันว่า  ประเทศในอาเซียนทั้งหลายนั้น เคยตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก เกือบทั้งหมด

ยกเว้นไทย บางชาตินั้นก็เข้าเป็นรัฐในอารักขา ก็มีบ้างส่วนบางประเทศก็ถูกตีเข้ายึดก็มี การต้องตก

เป็นอาณานิคมของฝรั่งนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่คนพื้นเมืองชื่นชอบนัก และพยายามต่างๆนานา 

เพื่อจะให้ตัวเอง หลุดพ้นจากการควบคุมของเจ้าอาณานิคม วันนี้เราไมได้มาลงว่าพวกเขาทำอย่างไร 

เราจะมาลงข้อมูล วันเวลา ช่วงปี ที่เขาสามารถ ประกาศเอกราชให้ตัวเองได้ พร้อมข้อมูลอีกนิดหน่อย

เพราะว่าเวลาเราค้นหาช่วงวันเวลา มันจะได้ไม่ดูเยอะต้องมานั่งหากวาดตาหา เอาข้อมูลดิบๆที่ต้องการ

สื่อเลย เชื่อสิบางคนต้องการแค่วัน ปี ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย


เพราะต้องใช้ประกอบข้อสอบ การบ้าน หรืออ้างอิงเวลา ตอนที่ไปแสดงความเห็นให้ข้อมุลต่างๆอีก 

 อะ มาเริ่มกัน


เอกราช


1. ไทย : ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใคร ตรงตามความหมายของชื่อประเทศ ไทย คือ เสรีภาพ 



2. ฟิลิปปินส์  : หลุดพ้นจากการครอบครองของสเปน เมื่อ 12 มิถุนายน ค.ศ. 1898 (พ.ศ. 2441) 

เนื่องจากสหรัฐชนะสงครามกับสเปน แต่ ฟิลิปปินส์ก็ต้องตกอยู่ใต้อำนาจสหรัฐอีกต่อนึง

อยู่ภายใต้การปกครองของสหรัฐอเมริกา 1898-1946 ระยะเวลา 48 ปี ก่อนจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 

ทำให้ญี่ปุ่นเขายึกฟิลิปปินส์แทน ถ้านับวันที่ได้รับเอกราช จะนับจากการที่หลุดพ้นจาก

สเปนในวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 1898 (พ.ศ. 2441)



3. อินโดนีเซีย : ได้รับเอกราชวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 1949 ( 2492 ) จากเนเธอร์แลนด์ เพราะญี่ปุ่น

ได้เข้ายึดอินโดจาก เนเธอร์แลด์ แต่ท้ายที่สุดญี่ปุ่นแพ้สงคราม ทำให้อินโดนั้น ประกาศเอกราชทันที 

ในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2488 โดยมี ซูการ์โน เป็น ประธานาธิบดีคนแรก* ของประเทศเป้นผู้นำ 

แต่ก็มีการต่อสู้กันอย่างหนักเพราะเนเธอร์แลนด์ไม่ยอมให้อินโดนีเซีย ได้เอกราช จนต้องเจรจาหา

ข้อตกลงกันหลายครั้ง จนมาสรุป ในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2492 อินโดนีเซียจึงได้รับเอกราชจาก

เนเธอร์แลนด์ เนื่องจากสหประชาชาติกดดัน 



4. มาเลเซีย : ได้รับเอกราชวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1957 ( พ.ศ. 2500 ) หลังจาก สงครามโลก

ครั้งที่สอง นั้น อังกฤษ ก็ยังเข้าไปควบคุม ดินแดนมาลายา และ มะละกะ อย่างเข้มงวดกว่าก่อน 

ทำให้คนท้องถิ่นเกิดกระด้างกระเดื่อง ไม่พอใจเกิดการต่อต้านนำโดย ตนกู  อับดุล ราห์มาน 

นำผู้คนต่อต้านเพื่อประกาศเอกราชจากอังกฤษ จนสำเร็จในที่สุด ทำให้เขาได้ขึ้นมาเป็น นายกรัฐมนตรี

คนแรกของมาเลเซีย อีกด้วย



5. บรูไน : บรูไน ได้รับเอกราชในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1984 จากอังกฤษ เหมือนกับที่อื่นๆ เมื่อ 

ต้องตกเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ ผ่านญี่ปุ่นเข้ายึดครอง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 

ญี่ปุ่นแพ้สงคราม มีการคิดไว้ว่าจะเข้าร่วมกับ มาเลเซีย แต่โดนคัดค้าน ให้ไปรวมกับซาห์บา กับ 

ซาราวัค เพื่อตั้งประเทศใหม่แทน แต่เกิดความวุ่นวายจากกองทัพปลดแอกเสียก่อน 

จนอังกฤษต้องนำ ทหารกรูข่า เข้ามาดูแลความเรียบร้อยให้ ทำให้มาเลเซียตอนตั้งประเทศไม่มี

บรูไนรวมอยู่ด้วย ได้มีการเจรจาหารือ กันเกี่ยวกับเอกราชบรูไน จนในที่สุดก็ได้รับเอกราช

อย่างสมบูรณ์ ในวันที่ 1 มกราคม 1984



6. สิงคโปร์ ได้รับเอกราวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1965 จากอังกฤษ สิงคโปร์ทราบถึงว่าการได้รับ

เอกราชของมาเลเซีย ลีกวนยู ผู้นำของสิงคโปร์ตอนนั้น จึงรีบนำสิงคโปร์เข้าไปรวมกับสหภาพมลายา 

หรือมาเลเซียในปัจจุบันทันทีเพื่อที่จะได้รับเอกราชไปด้วย หลังจากรวมได้ 2 ปี เนื่องจากมาเลเซียนั้น

ค่อนข้างไม่ชอบเหยียมสิงคโปร์อยู่เนืองๆจึงบีบให้สิงคโปร์ต้องแยกตัวออกมาตั้งประเทศใหม่ ที่มีความ

เจริญก้าวหน้ากว่าใครในอาเซียน



7. กัมพูชา : ได้รับเอกราชวันที่ 9 พฤศจิกายน 1953 จากฝรั่งเศส โดยการเรียกร้องเอกราชของ 

พระนโรดม สีหนุ พระนโรดม สีหนุกลายเป็นวีรบุรุษของชาวกัมพูชา ได้รับเอกราชตามอนุสัญญาเจนีวา 



8. ลาว : ได้รับเอกราชวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 1975 จากการเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส กลุ่มคอมมิวนิสต์

หรือขบวนการประเทดลาวที่นำโดยเจ้าสุภานุวงศ์ พรรคประชาชนปฏิวัติลาว ประธานคนแรกของ

ประเทศลาว ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สหภาพโซเวียต และ คอมเวียดนาม ได้ล้มล้างระบอบกษัตริย์

ของลาวและนำพาประเทศสู่ ชื่อประเทศชื่ออย่างเป็นทางการที่ว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

และได้ประกาศเอกราชจากฝรั่งเศสในวันเดียวกันด้วย ทุกวันที่ 2 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันชาติ



9. เวียดนาม : ได้รับเอกราชวันที่ 2 กันยายน ปี 1945  เวียดนามประกาศเอกราช และได้สถาปนา

สาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามอย่างเป็นทางการ นำโดย โฮจิมินห์ทำให้ฝรั่งเศสเข้าบุกเวียดนาม

อีกครั้ง ถึงจะยากลำบากแต่เวียดนามก็ต่อสู้จนฝรั่งเศสยอมถอยไปได้ทำให้เวียดนาม มีเอกราชอย่าง

สมบูรณ์  หลังตกเป็นอาณานิคมมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2



10. พม่า : ได้รับเอกราชวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2491 ได้รับเอกราชจากจักรวรรดิอังกฤษ จากการที่

รวมกันขอเอกราชจากอังกฤษ แล้วโดน นายพลเนวิน หักหลังนำมาสู่ปัญหามากมายของชนกลุ่มน้อย

ที่รวมกันในตอนแรกจนเป็นปัญหามาถึงทุกวันนี้ พม่าก็ไม่เคยสงบอีกเลย ทั้งสงครามกลางเมือง 

เผด็จการ ต่างๆนานาๆ


สาระน่ารู้








+++